หลังจากที่ทีมงานได้หยิบหนังสืออกมาจากชั้น ก็พบว่าบางเล่มเป็นหนังสือวิชาการ บางเล่มเป็นหนังสือบทความภาษาอังกฤษ บางเล่มก็ผลิตเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว บางเล่มถูกเปิดจนกระดาษยับยู่ยี่ แต่บางเล่มกับเรียบกริบเหมือนไม่เคยผ่านการใช้งาน นั่นเพราะบางเล่มแทบจะไม่มีภาพ เนื้อหาก็ไม่เข้าใจตัวหนังสือก็เยอะเป็นพรืด แม้หนังสือบนชั้นจะมีหลายสิบเล่ม แต่มีเพียงไม่กี่เล่มที่เด็ก ๆ เข้าถึงและเปิดดูซ้ำ ๆ 

​

ทีมงานเราให้ความสำคัญกับการอ่านหนังสือมาก ๆ และคิดว่าเด็ก ๆ ควรได้อ่านหนังสือที่เหมาะสมกับวัยเขา หนังสือที่จะทำให้การอ่านหนังสือของเด็กในวัยนี้เป็นเรื่องน่าสนใจ โดยจัดซื้อหนังสือที่เหมาะกับเด็ก วัย 6 - 12ปี ทั้งหนังสือเสริมสร้างพัฒนาการ หนังสือการ์ตูน หนังสือภาพ

​

นอกจากนี้จะจัดมุมอ่านหังสือ ให้เด็ก ๆ ได้มีพื้นที่สำหรับผ่านหนังสือ และนั่งเล่น เพิ่มความน่าสนใจระหว่างเด็ก ๆ และหนังสือซึ่งหากได้ลงพื้นที่พร้อมทีมอาสา จะยกให้เป็นหน้าที่ของทีมงานและทีมอาสาในการครีเอทพื้นที่ดังกล่าวและในส่วนของหนังสือนอกจากงบจากการโดเนท ทีมงานยังมีโปรเจกต์พิเศษ ที่จะชวนทุกคนมาบริจาคหนังสือที่อยากส่งต่อ กับ "หนังสือพี่ ความสุขน้อง" โปรเจกต์พิเศษ ซึ่งจะอธิบายเพิ่มในลำดับถัดไป

​

​

อุปกรณ์การเรียน

​

อุปกรณ์การเรียนเป็นอีกส่วนที่โรงเรียนต้องรับผิดชอบ แม้จะมีงบประมาณจากภาครัฐแต่ในงบดังกล่าวไม่สามารถที่จะใช้ไปกับอุปกรณ์การเรียนได้ทั้งหมดเนื่องจากงบรายปีที่ได้รับ ต่อนักเรียน1 1 คน คือ 650บาทโดยแบ่ง 200บาทสำหรับอุปกรณ์การเรียนและที่เหลือเป็นชุดนักเรียน ทำให้โรงเรียนต้องหางบนอกมาเพื่อสนับสนุนในส่วนนี้ ซึ่งทีมงานจะจัดหา สมุด ปากกา ดินสอ และดินสอสีสำหรับการเรียนให้กับทงโรงเรียนเพิ่งแจกให้นักเรียนในเทอมถัดๆไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

​

​

​

​

​

​

​

​

​

​

​

​

​